2 วัน 1 คืน ใช้ชีวิตริมเลที่ ‘ภูษิต โฮมสเตย์’
บ้านคลองช่อง ชื่อนี้คงไม่ค่อยคุ้นหูนัก แต่สำหรับผมในตอนนี้ บ้านคลองช่องคือสถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุด เพราะเป็นหมู่บ้าน (ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ) ที่ยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติและวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้าน สวนทางกันกับโลกภายนอกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว โดยการสัญจรทางเรือก็ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของที่นี่ เช่นเดียวกับลมที่กำลังตีแสกหน้าผมอยู่ในตอนนี้
เพื่อมุ่งหน้าไปยัง ภูษิต โฮมสเตย์ ที่พักบริเวณปากอ่าวแม่กลอง ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าตกหลุมรักในบรรยากาศของที่นี่ทันทีตั้งแต่แรกเห็น
เพื่อมุ่งหน้าไปยัง ภูษิต โฮมสเตย์ ที่พักบริเวณปากอ่าวแม่กลอง ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าตกหลุมรักในบรรยากาศของที่นี่ทันทีตั้งแต่แรกเห็น
“สวัสดีครับน้อง” เสียงทักทายดังขึ้นแม้ว่าตัวผมเองยังไม่ได้ก้าวเท้าออกจากเรือ ตรงศาลาท่าน้ำเป็นชายวัยกลางคนที่มีรอยยิ้มประดับบนหน้าเหมือนคนมีความสุขตลอดเวลา ถ้าเป็นเราล่ะ การได้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ นั่งมองเรือสัญจรไปมาที่หน้าบ้านก็คงมีความสุขไม่ต่างจาก พี่ภูษิต ฤกษ์ดี เจ้าของภูษิต โฮมสเตย์แห่งนี้เหมือนกันแหละน่า
บรรยากาศยามเย็น
อีกหนึ่งข้อดีของโฮมสเตย์แห่งนี้ นอกจากทำเลที่ตั้งระดับแถวหน้าแล้วนั้นก็คือ กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพราะเพียงแค่มาพักกับภูษิต โฮมสเตย์ เขาก็จะจัดโปรแกรมท่องเที่ยวเอาไว้ให้เสร็จสรรพ เหมือนอย่างครั้งนี้ที่มี โสรัช อำภัย หรือ น้าหนวด เป็นนายท้ายเรือพาผมและแขกคนอื่น ๆ โลดแล่นสู่ คลองช้าง ซึ่งสองฝั่งคลองเต็มไปด้วยป่าชายเลนโดยกิจกรรมที่ทางโฮมสเตย์จัดให้คือ ปลูกป่าชายเลน การเก็บหอยแครง และ กิจกรรมถีบกระดานเลน
หลังจากลุยโคลนเปรอะเปื้อนประสบกาณ์กันแล้วขากลับเราก็พบกับลิงแสม ซึ่งกฎเหล็กของการล่องเรือชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนแห่งนี้ก็คือ ห้ามให้อาหารลิงเด็ดขาด!
“ถ้านักท่องเที่ยวให้อาหารลิง ผลเสียคือเขาจะติดเป็นนิสัยและไม่สามารถหาอาหารกินเองได้ พอเป็นอย่างนั้น ลิงก็จะเข้าไปหาอาหารในบ้านคน สุดท้ายถูกคนยิงตาย ที่สำคัญคือเป็นการทำลายห่วงโซ่อาหารของสัตว์ในพื้นที่ด้วย”
“ถ้านักท่องเที่ยวให้อาหารลิง ผลเสียคือเขาจะติดเป็นนิสัยและไม่สามารถหาอาหารกินเองได้ พอเป็นอย่างนั้น ลิงก็จะเข้าไปหาอาหารในบ้านคน สุดท้ายถูกคนยิงตาย ที่สำคัญคือเป็นการทำลายห่วงโซ่อาหารของสัตว์ในพื้นที่ด้วย”
หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว คราวนี้ก็จะได้พักผ่อนกันเสียที โดยอาหารมื้อเย็นวันนี้เป็นอาหารพื้นบ้านที่พี่ภูษิตและภรรยาภูมิใจนำเสนอมาก ซึ่งเมนูอาหารไม่ได้มีอะไรมากมายเล้ยยย ก็แค่ ปลาทูทอดกรอบ น้ำพริกกะปิ ใบชะครามราดกะทิ ปลาหมึกผัดกะปิ แกงคั่วปูทะเลไข่หน่อไม้ดอง ต้มยำกุ้งแช่บ๊วยทะเล เท่านั้นเอ๊งงง ซึ่งเมนูอาหารเหล่านี้จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน แล้วแต่วัตถุดิบที่ทางเจ้าของบ้านเขาหามาได้ ส่วนรสชาติก็พื้นบ้านขนานแท้ นี่ถ้าไม่ติดว่าเกรงใจพี่ภูษิตนะ จะขอเบิ้ลสักหน่อยแล้ว
หลังอาหารมื้อเย็น พี่ภูษิตก็พูดด้วยแววตาอันเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมว่า“กูปลูกป่าไว้ให้พวกมึง” ซึ่งประโยคนี้เป็นคำพูดของ ผู้ใหญ่เดชา จื้อเหลียง อดีตผู้ใหญ่บ้านคลองช่องที่เคยรับใช้สมเด็จพระเทพฯ เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จฯ มาปลูกป่าชายเลนที่หมู่บ้านแห่งนี้ โดยผู้ใหญ่เดชาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้พี่ภูษิตและน้าหนวดเกิดความรักและหวงแหนธรรมชาติของบ้านเกิดอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมช่วยกันดูแลและให้ความรู้ด้านการอนุรักษ์กับนักท่องเที่ยว เพื่อให้ผืนป่าผืนนี้อยู่คู่กับคนคลองช่องและคนไทยตลอดไป
ติดต่อ : บ้านคลองช่อง ต.คลองโคน จ.สมุทรสงคราม08 0443 4866, 08 9745 6238
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น